26 กรกฎาคม 2552

พระบารมีปกเกล้าฯ

วันนี้ 26 กรกฎาคม 2552

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ครอบครัวของเรา เข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ ณ วังสระปทุม ในโอกาสครบรอบสมรสพระราชทาน 10 ปี (26 กรกฎาคม 2542)

วันนี้แอมกับคิวร่วมเข้าเฝ้าฯ ด้วย หลังจากคิวสอบติดเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ

อาจารย์ประพจน์ (คณบดีอักษรศาสตร์จุฬาฯ) กระเซ้าเรื่อง นิสิตใส่กางเกง/กระโปรง เอวต่ำเป็นแฟชั่น

นิวกราบบังคมทูลว่า "พ่อบอกให้ดึงเอวกางเกงขึ้นอีก แต่ลูกไม่ยอม ลูกบอกไม่ใช่เด็กเนิร์ส"

สมเด็จพระเทพฯ ทรงสงสัยว่าเด็กเนิร์สเป็นอย่างไร

อจ.ประพจน์ เป็นคนถวายคำอธิบายว่าเด็กเนิร์สคืออะไร

สมเด็จพระเทพฯ ทรงรับสั่งถามแอมว่า "เรียนอยู่ปีไหนแล้ว เรียนทำฟันหรือยัง"

21 กรกฎาคม 2552

พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก



วันนี้ขออัญเชิญ พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย


ไว้เป็นเครื่องเตือนใจบุคคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน อย่าฉกฉวยโอกาสคิดค่ายาค่ารักษาโรคหวัด 2009 จากประชาชนมากจนเกินไป


ขอให้จดจำพระราชดำรัสไว้ให้ขึ้นใจ


โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก็ควรจะยิ่งต้องปฏิบัติตามพระราชดำรัสอย่างเคร่งครัด ไม่เอาแต่เงินนะท่าน ผอ.


แผนที่ไปร้าน "บ้านพี่เล็ก"


ไปร้าน "บ้านพี่เล็ก" ไปไม่ยากครับ

จากถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวตรงแยกศรีนครินทร์ตัดกับอุดมสุข แยกนี้มีสะพานลอยครับ

เป็นสะพานลอยรถข้ามแยก ตามแนวถนนอุดมสุข

เลี้ยวขวา เข้าซอยเฉลิมพระเกียรติ 9 ก่อนถึงซอย 9 สังเกตมีปั๊มบางจาก ถัดจากปั๊มก็เป็น TOP Market

เลี้ยงเข้าซอยไปร้อยเมตร จะเป็นทางแยก ให้เลี้ยวขวาแล้วเลี้ยวซ้ายตามถนน ตรงเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตรก็ถึงร้าน อยู่ทางซ้ายมือครับ

หาไม่ยากครับ

12 กรกฎาคม 2552

วิธีหยุดการระบาดไข้หวัด 2009

วิธีหยุดการระบาดไข้หวัด 2009 โดยไม่ต้องหยุด ไม่ต้องปิด ให้วุ่นวาย
ต้องมีมาตรการการควบคุมผู้ป่วย ผู้แพร่เชื้อ
เพราะผู้ป่วย ผู้ที่เพิ่งจะหายป่วย จะเป็นผู้ที่แพร่เชื้อ
หากไม่ควบคุมผู้ป่วย ผู้ที่เพิ่งจะหายป่วย ก็จะแพร่เชื้อออกไปอีก
การแพร่เชื้อจะกระจายอย่างรวดเร็ว จาก 1 เป็น 10 หรือ 20 หรือ 100 หรือมากกว่า ไม่ใช่ 1 เป็น 2

ทำอย่างไร ?
ทำได้โดย
ประการแรก รัฐบาลต้องรับผู้ป่วยไข้หวัด ทั้งไข้หวัดธรรมดา และไข้หวัด 2009 ทั้งหมดไว้รักษาตัวในโรงพยาบาลทันที
รัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทุกโรงพยาบาลที่มีความสามารถในการดูแลรักษาผู้ป่วยต้องรับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทันที
คัดแยกผู้ป่วยไข้หวัดออก และต้องคัดแยกผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ออกมาให้ได้โดยเร็ว
เมื่อผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ก็เท่ากับสามารถควบคุมผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ ไม่ให้ออกไประบาดแพร่เชื้อในที่สาธารณะได้ส่วนหนึ่ง
หากสามารถรับผู้ป่วยผู้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ไว้ในโรงพยาบาลได้ทั้งหมด ก็เท่ากับ ผู้ป่วยผู้ติดเชื้อและผู้แพร่เชื้อ จะอยู่ในการควคุม
รัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
รับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสัก 5-7 วัน รอจนหายป่วย พ้นระยะแพร่เชื้อก่อน จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจแล้วไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัด 2009 ให้รับรักษาตัวในโรงพยาบาลขั้นแรก เมื่ออาการดีขึ้นอนุญาตให้กลับบ้านได้
แต่ควรให้ไปพักอยู่ที่บ้านอีก 7 วันก่อนไปทำงาน หรือไปเรียน

ประการที่สอง เพื่อสนับสนุนและให้ผู้ป่วยผู้ติดเชื้อมาโรงพยาบาลโดยเร็ว รัฐบาลต้องประกาศให้บุคคลเหล่านั้นมาโรงพยาบาลทันที แม้จะมีอาการเล็กน้อย
ให้มาโดงพยาบาลทันที ประกาศให้ชัดเจนว่ารัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ประกาศให้ผู้ป่วยไข้หวัดที่มารักษาตัว ไม่ถือว่าเป็นวันลา ไม่ถือว่าขาดราชการ
ต้องจำไว้ให้ดีว่าข้อนี้ ต้องการให้ผู้ป่วยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันทีที่มีอาการ แม้จะมีอาการเพียงเล็กน้อย ก็ต้องรีบรับตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล
เพื่อควบคุมตัวผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อโดยเร็ว

ประการที่สาม ผู้ป่วยที่หายแล้ว อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ต้องหยุดอยู่บ้านอีก 7 วัน เพื่อป้องกันการไปแพร่เชื้อ เพราะไม่แน่ว่าเชื้อตายหมดแล้วหรือไม่
นายแพทย์สมบัติ (โรงพยาบาลพญาไท) กล่าวว่า "ผู้ป่วย ต้องรับผิดชอบต่อสังคม"

อีกประการหนึ่ง รัฐบาลต้องให้ประชาชนทั่วไประมัดระวังตนเองให้มากขึ้น ด้วยการใช้หน้ากากปิดปากปิดจมูกเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ

การดำเนินการเหล่านี้ รัฐบาลต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว หากชักช้าปล่อยให้ระบาดไปอีก จะควบคุมสถานการณ์ได้ยาก จนไม่สามารถควบคุมได้
รัฐบาลต้องดำเนินการโดยเร็ว

วิธีควบคุมนี้ ยังพอใช้ได้ในสถานการณ์ขณะนี้ หากช้าไปอาจต้องปิดประเทศ ประกาศสภาวะฉุกเฉิน ตายอีกเป็นพันแน่

06 กรกฎาคม 2552

ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009

ถือว่า รัฐบาลสอบตกในการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 อย่างสิ้นเชิง

ทำไม?
ก็เพราะรัฐบาล ไม่สามารถป้องกัน และสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ได้เลย ปล่อยให้ระบาดอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่โรคนี้เป็นโรคที่ไม่ได้เกิดขึ้นในบ้านเรา แต่เป็นโรคที่นำเข้า รัฐบาลขาดมาตรการในการควบคุมโรค

รัฐบาลมีเพียง การป้องกันโดยให้ประชานป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นการป้องกันแบบบุฟเฟ่ต์
คนป่วย คนแพร่เชื้อ หรือพาหะ ต่างมีอิสระเสรี ไปไหนมาไหนได้ เข้าไปปะปนอยู่ในฝูงชน ในสังคมได้ โดยประชาชนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็นโรคนี้บ้าง ใครเป็นผู้แพร่เชื้อบ้าง

ทั้งนี้เพราะรัฐบาล ขาดมาตรการในการควบคุมโรค

รัฐบาล ขาดมาตรการในการควบคุมผู้ป่วย

รัฐบาลไม่มีมาตรการในการคัดแยกผู้ป่วย และพาหะนำโรคออกจากสังคม

หากรัฐบาลจริงใจที่จะแก้ปัญหา และหยุดการระบาดของโรค
รัฐบาลต้องมีมาตรการในการควบคุมโรค ควบคุมผู้ป่วย ควบคุมผู้ที่เป็นพาหะนำโรค
เพื่อไม่ให้โรคนี้แพร่กระจายไปอีก

หากสามารถควบคุมโรคได้ การระบาดจะหยุดลงทันที หรืออย่างรวดเร็ว เพราะการกระจายของโรคอยู่ในการควบคุม

รัฐบาล (ที่อ่อนด้อยความสามารถ) จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย หากทำเพียงเพื่อหาเสียง สร้างภาพ
รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ผู้ป่วยทุกคน
รัฐบาลต้องควบคุมผู้ป่วยทุกคน จนกว่าจะพ้นสภาวะพาหะนำโรค
รัฐบาลต้องรับผู้ป่วยทุกคนเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่ควบคุมได้ เพื่อควบคุมการกระจายของโรค
รัฐบาลต้องควบคุมไม่ให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ออกไปภายนอกอย่างน้อย 7 วัน เพื่อติดตามดูอาการ และควบคุมการแพร่กระขายโรค
รัฐบาลต้องควบคุมทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยว อย่างน้อย 7 วัน โดยไม่ต้องกลัวว่าการท่องเที่ยวจะเสียหสย เพราะต้องควบคุมโรคให้ได้ หากไม่สามารถควบคุมโรคได้ โรคร้ายนี้ก็จะทำลายการท่องเที่ยวอย่างสิ้นเชิง

มาร์ค ม.7 กับนายวิทยา รมว.สธ. ต้องรับผิดชอบประชาชนที่ป่วยด้วยหวัด 2009
ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ป่วยทุกๆ คน อย่างนิ่งเฉย

อย่าคิดว่าชีวิตของประชาชนไม่มีค่า แล้วทำเฉยเมย
ประชาชน เขาไม่พูด แต่จดจำเสมอ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009

เพียงไม่กี่วัน กี่เดือน ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ก็ระบาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว แต่ละวันมีผู้ป่วยติดเชื้อหวัดนี้เริ่มจากไม่กี่คนต่อวัน เพิ่มเป็นหลักสิบ หลักร้อย ต่อวัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. เพิ่มขึ้นเกือบ 200 คน ในวันเดียว
ก็อยากจะขอเตือนให้ระมัดระวังกันไว้บ้าง แม้ว่ารัฐจะไม่มีมาตรการออกมาดูแลควบคุมโรค แม้ว่าแพทย์ใหญ่แพทย์น้อยบอกอย่าตื่นตระหนก รักษาได้ ไม่อันตราย แต่ก็มีคนเสียชีวิตไปแล้วจากไข้หวัดนี้ 7 ราย และยังอยู่ในขั้นโคม่าอีกอย่างน้อย 3 ราย รมว.สธ. นายกฯ จะสำนึกตระหนักในความรับผิดชอบที่มีหน้าที่ดูและประชาชนมากน้อยเพียงใด
หมอบางคนก็ออกมาพูดปัดความรับผิดชอบไปว่า ไข้หวัดนี้อัตราผู้เสียชีวิตน้อย ไม่ต้องกลัว
แต่ถ้าท่านลองคิดดูนะครับว่า ถ้าผู้ที่ป่วย และเสียชีวิตด้วยโรคหวัดนี้ เป็นลูก เป็นหลาน เป็นญาติพี่น้อง เป็นพ่อเป็นแม่ของท่าน แล้วท่านจะพูดแบบเดิมไหม ท่านจะเสียใจไหม

ชีวิตหนึ่งชีวิต ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงหรือชาวบ้านติดดิน ก็ล้วนแต่มีค่าทั้งนั้น อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่มีค่าต่อครอบครัวของเขาอย่างหาที่ปรียบมิได้ ฉะนั้น รัฐบาลต้องทำงาน ต้องรับผิดชอบมากกว่านี้