30 มีนาคม 2552

วันที่ 30 มีนาคม 2552

กรุงปราก-คาร์โลวี่วารี่-มิวนิค

เช้าวันนี้เป็นวันจันทร์ เป็นวันทำงาน ผมก็เลยตื่นแต่เช้ามาทำงานก่อนครับ ไม่ต้องสงสัยว่าจะไปทำงานที่ไหน ผมทำงานออนไลน์จากสาธารณรัฐเช็กเลยครับ
โชคดีที่เรามาพักที่โรงแรม Crowne Plaza เป็นโรงแรมระดับสี่ดาวครึ่ง หรืออาจจะห้าดาว ที่โรงแรมมีบริการ wifi อินเตอร์เน็ตฟรี ผมก็เลยได้ทำงานไปด้วยได้ครับ ที่มายุโรปครั้งนี้เป้าหมายหนึ่งของผมก็คือ ทดลอง NWS980 ออนไลน์ไปจากยุโรป เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทดลอง VoIP ของ NWS980 ได้ แต่พอจะทดลองระบบ Simulation ปรากฏว่าอินเตอร์เน็ตที่ สรส.ล้ม Server ก็ไม่มีทางออก น.ต.ยศวัจน์ เมล์มาบอกว่าแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยทดลอง NWS980 ทั้งระบบ Simulation และระบบ VoIP ทดลองตั้งแต่เมื่อคืนห้าทุ่ม ตรงกับเมืองไทยก็ตีสี่ โอเคเลยครับ ใช้ได้ ทำงานได้ เพียงแต่ยังไม่มีใครเล่นเกมกับผมด้วย ผมต้องรอจนถึงเช้า นอนรอนะครับหลับไปพักใหญ่ประมาณสี่ห้าชั่วโมง มาสะดุ้งตื่นตอนที่ระบบ VoIP มันร้อง The Server has terminated. ก็รีบลุกขึ้นดูนาฬิกาบ้านเราประมาณเก้าโมงครึ่ง ที่ปรากก็ตีสี่ครึ่ง ผมก็เรียกไปที่ สรส. ร.ท.ไพบูลย์ น.ต.ยศวัจน์ ก็ตอบกลับมา บอกตรงๆ เลยว่าดีใจที่ได้ยินเสียงทีมงานของเราครับ
เราทาการทดลอง ทดสอบระบบออนไลน์ พูดคุยกันถึงหกโมงเศษ ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ด้วย ผลการทดลองผมไปลงไว้ในบล็อก NWS980 แล้วครับ นอกจากนั้นยังได้พูดคุยกับอีกหลายๆ คนในกองการจำลองยุทธ์ ตั้งแต่ รอง ผอ. น.ต.คมกฤษ น.ต.พุฒิเมธ น.ต.ธีระพงษ์ แล้วก้อ ทองเจือด้วย ผมสั่งงานด้วยนะครับ (ลูกน้องคงคิดในใจดังๆ ว่า ผอ.นี่สั่งงานออนไลน์จากต่างประเทศเลยนะ)
เสร็จงานที่เมืองไทยแล้วก็เตรียมตัวเดินทางต่อครับ วันนี้เราจะต้องเดินทางจากกรุงปราก ไป มิวนิค สาธารณรัฐเยอรมนี นัดหมายออกเดินทางแปดโมงครับ ทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้วเราก็เอากระเป๋าขึ้นรถบัส วันนี้กระเป๋าเดินทางหนักมากขึ้นกันเกือบทุกคน ก็ซื้อของกันมาเยอะแยะครับ

แปดโมงเศษๆ เราก็ออกเดินทาง วันนี้อากาศดี เมื่อวานฝนตกทั้งวัน วันนี้ฝนหยุดแล้วแต่อากาศเย็น 5 องศา เราเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ตามเส้นทางเราจะผ่านเข้าไปในดินแดนซึ่งเป็นอาณาจักรโบฮีเมีย (BOHEMIA) เดิม เราจะแวะเที่ยวที่เมืองตากอากาศเมืองหนึ่งของอาณาจักรโบฮีเมีย คือเมืองคาร์โลวี่วารี่ (KARLOVY VARY) รับประทานอาหารกลางวันที่นั่นแล้วเดินทางต่อไปเข้าเขตสาธารณรัฐเยอรมนี สู่เมืองมิวนิค

ออกเดินทางมาได้ประมาณชั่วโมงเศษ รถบัสก็แวะเข้าปั๊มน้ำมันระหว่างทางก่อนถึงคาร์โลวี่วารี่ 40 กิโลเมตร เส้นทางนี้เป็นถนนสองเลนรถวิ่งสวนกัน ถนนดีมาก บางช่วงก็ผ่านเข้าหมู่บ้าน พื้นที่บริเวณแถบนี้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โชโนบิลของรัสเซียระเบิด ทางการเช็กก็ต้องจัดการกำจัดสารพิษกัมมันตภาพรังษีอยู่นาน ปัจจุบันก็ยังมีกัมมันตภาพรังสีเหลืออยู่บ้าง สองข้างทางมีป่าไม้ไม่มาก เพราะถูกตัดไม้ไปตั้งแต่สมัยนาซียึดครอง โดยพื้นที่แถบนี้เป็นเขตอุสาหกรรม รัฐบาลเช็กกำลังดำเนินการปลูกป่าทดแทนอยู่ สองข้างทางยังเป็นพื้นที่เกษตรที่ดูอุดมสมบูรณ์ เขียวไปทั่วครับ

เราเดินทางมาถึงคาร์โลวี่วารี่ ประมาณสิบโมงเศษ อย่างที่บอกครับเมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศ พระเจ้าชาร์ลที่ 4 เป็นผู้ที่มาสร้างไว้ เนื่องจากที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อน ชื่อคาร์โลวี่วารี่ ก็แปรว่าเมืองน้ำพุร้อนนั่นเองครับ (ไกด์บอก) พระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดเมืองนี้มาก ให้สร้างเป็นเมืองตากอากาศ ดังนั้นในเมืองนี้จึงมีโรงแรมที่พักมากมาย และก็เป็นเมืองแรกที่มีสปาขึ้นตั้งแต่สมัยนั้น นี่ไกด์ก็บอกอีกเช่นกัน แต่ผมไม่เห็นด้วยเพราะแถบเอเชียก็มีการสร้างบ่อสปามานานเป็นร้อยๆ ปีแล้วครับ ในหนังเกาหลีหลายๆ เรื่องยังมีให้เห็นเลยครับ
คาร์โลวี่วารี่ ตั้งอยู่ในหุบเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน มีบ่อน้ำพุร้อนซึ่งร้อนถึง 72 องศา เขาก็ทำท่อต่อน้ำร้อนมาใหนักท่องเที่ยวทดลองด้วยครับ แบ่งเป็นระดับอุณหภูมิต่างๆ กัน 72 50 36 องศา
เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ ครับ มีผู้คนจากหลายประเทศหลายเชื้อชาติมาเที่ยว แล้วก็มีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายคริสตัล พอสเลน ที่จอดรถบัสอยู่ด้านล่าง เขามีบริการรถชัตเติ้ลบัสรับขึ้นมาส่งอีกทีครับ
ไปดูรูปกันสิครับ

ไม่มีความคิดเห็น: