25 มีนาคม 2552

เส้นทางยุโรป

วันที่ 22 มีนาคม 2552

วันแรกของการเดินทางทัวร์ยุโรปตะวันออก
วทร.นัดหมายพบกันที่ช่องเช็คอิน D สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นช่องเช็คอินของสายการบินไทย เวลา 2100
ก่อนที่จะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพราะเหตุที่สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ไกล วทร.ก็เลยจัดรถมารับคณะจาก สรส.ด้วยรถบัส 1 คัน และรับที่ท่าราชวรดิษฐ์ 1 คัน ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษเราก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิกันตามนัดหมาย
ที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ลอฟท์ทัวร์เช็คอินไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รับตั๋วพร้อมหนังสือเดินทาง ประมาณ 3 ทุ่มครึ่งเท่านั้นเอง เรามีเวลาอีก 2 ชั่วโมง เวลาขึ้นเครื่องคือ 2335
เช็คอินเรียบร้อย เดินเข้าไปด้านในเพื่อตรวจหนังสือเดินทาง สนามบินสุวรรณภูมใหญ่มาก อาศัยว่าเคยเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง แม้ว่าจะมาใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก ก็พอจะเดินเข้าไปถูกทาง เดินไปตรวจหนังสือเดินทาง นักท่องเที่ยวขาออกเยอะมาก แต่คนไทยน้อยช่องตรวจหนังสือเดินทางของคนไทยก็เลยมีคนใช้บริการน้อย ในคณะบางคนไปใช้ช่องบริการ Fast Track แต่ก็ไม่ได้เร็วกว่าเลย
ผ่านการตรวจหนังสือเดินทาง เดินออกมาแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย แล้วเดินชมสินค้าปลอดภาษี มีของขายมากมาย หลากหลายชนิด ราคาถูกกว่าข้างนอก แต่ถูกกว่านิดหน่อยเท่านั้น ที่สนใจแวะไปดูก็คือปากกามองบลังค์ ราคาด้ามละ 15000 18000 20000 บางด้ามราคา 40000 50000 ก็มี แพงมาก แต่ก็น่าใช้ เอาไว้ถ้ารวยๆ แล้วจะซื้อใช้ ตอนนี้ฝากร้านไว้ก่อนก็แล้วกัน
เดินต่อมาจนถึงประตู B6 กว่าจะมาถึงต้องเดินมาทางซ้ายเกือบสุดทาง ลงบันไดเลื่อนหนึ่งชั้น แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 100 เมตร ผ่านจุดตรวจแล้วเดินลงบันไดเลื่อนอีกหนึ่งชั้น แล้วเดินวกกลับเป็นรูปตัว U ก็ถึงประตู Gate B6 ไกลพอดูเชียว
ตอนผ่านจุดตรวจ ต้องถอดเสื้อนอก ถอดเข็มขัด โน๊ตบุ๊คก็ต้องเอาออกจากกระเป๋าให้เอกซ์เรย์ ดูแล้วก็แปลกดี ถ้าจะให้ดีให้เรียบร้อยน่าจะมีห้องแต่งตัวด้วยนะ แต่สงสัยว่าทำไมไม่ให้ถอดรองเท้าด้วย>>>
รอที่ Gate นานกว่าไก้ขึ้นเครื่องก็เที่ยงคืน ที่นั่งของผมได้ 40G นั่งตอนกลาง นั่งคนเดียวเลยครับ ที่นั่งข้างผมว่าง ก็เลยรู้ว่าเที่ยวบินนี้ไม่เต็ม เครื่องเริ่มถอยออกจาก Gate เวลา 0029 แท็กซี่ไปอีกเกือบ 15 นาที ใช้เวลา Take off 1 นาที ก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กัปตันคือกัปตันไพโรจน์ แจ้งกับผู้โดยสารว่า ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง 5 นาที จะถึงซูริคเวลาประมาณ 0605 บินอยู่ที่ระดับ 33000 ฟุต หรือ 9700 เมตร เส้นทางกรุงเทพ-ซูริค จะต้องผ่านตอนใต้ประเทศพม่า อินเดีย ตุรกี เยอรมัน และอีกหลายประเทศ ที่ซูริค อุณหภูมิ -3 องศา C
บนเครื่องบิน หลังจากทะยานสู่ท้องฟ้าแล้ว แอร์ฮอสเตท ก็เริ่มเสริฟเครื่องดื่ม ไวน์ วิสกี้ น้ำส้ม น้ำอัดลม ผมก็ดื่มเบียรืไปกระป๋องนึงตามธรรมเนียม ผู้โดยสารบางคนไม่ดื่มอะไรเลย นั่งปุ๊บหลับปั๊บ ตามอัธยาศัยแอร์ก็ไม่รบกวน หลังจากนั้นก็เสริฟขนมปัง เมนูอาหารมื้อแรกบนเครื่องบินมีให้เลือกระหว่าง หมูอบซอสแอปเปิ้ล ก๋วยเตี๋ยวอิตาเลียน กับ แกงมัสมั่นไก่ ข้าวหอมมะลิไทยๆ ผมเลือกหมูอบซอสแอปเปิ้ล จริงๆ ก็อยากทานมัสมั่น แต่เอาเป็นว่าหมูอบละกัน
พอหมูอบมาถึง ร้อนๆ เลยครับ คงเพิ่งจะออกจากเตาไมโครเวฟ รสชาตินะหรือครับ โอ้โห้ ไม่ได้เรื่องเลย เส้นก๋วยเตี๋ยวก็แห้งแข็ง อาจเป็นเพราะไมโครเวฟ ผมก็เลยทานไปนิดนึง มีขนมเค้กมาในถาดด้วยชิ้นนึงครับ ในเมนูบอกไว้ว่า เป็นชีสเค้กเกาลัดและเนยแข็งมาสคาร์โปเน่ อันนี้รสชาติพอใช้ได้ แต่ออกจะหวานอย่างเดียวรสไม่กลมกล่อม น่าจะตัดเค็มด้วยเกลือหรือเค็มด้วยรสชาติของชีสอีกสักนิด จะทำให้อร่อยมากขึ้น
เสียดายลืมถ่ายรูปมาให้ดู
ทานอาหารเสร็จก็หลับกันไปบ้าง ตื่นบ้าง หลับๆ ตื่นๆ มันหลับไม่สบาย แต่บนเครื่องมีบริการทีวีส่วนตัวสำหรับคนที่ไม่หลับ เป็นแบบเคเบิ้ลทีวีออนดีมาน เลือกรายการได้ตามชอบมีหนัง มีเพลงให้เลือก เกมก็มีให้เล่น ผมก็ทดลองเล่นมาสองเกม เกมนับเลขภาษาเยอรมันคิดว่านะ กับเกมมนุษย์ถ้ำ คล้ายๆ เพคแมนนั่นแหละ หนังที่ดูก็ดูไปได้นิดเดียวเพราะเบื่อ ก็มีเจมส์บอนด์ ไลออนคิงส์ 2 ดูแล้วคิดถึงลูกๆ ตอนเล็กๆ ลูกชอบดูไลออนคิงส์ทั้งสองภาค ไม่รู้ว่า VCD ที่ลูกเคยดูยังอยู่หรือเปล่า
หลับๆ ตื่นๆ บนเครื่องบินไม่นานก็เช้า จริงเวลาที่บ้านเราก็น่าจะประมาณสิบโมง แอร์ก็เริ่มเสริฟเครื่องดื่ม แล้วก็ผ้าร้อนให้เช็ดหน้า ตามด้วยอาหารเช้า เมนูก็มีให้เลือก 2 เมนู คือ ไข่ทอด ไส้กรอกเยอรมัน กับ Spanish Omelet ไส้กรอกไก่ ผมเลือก Omelet ปรากฏว่าไม่อร่อยเลย เป็นอะไรที่มีแต่ไข่หนาๆ เกือบไม่มีเครื่องเลย ไม่มีกลิ่นหอมของเนย ชีส หรือผัก ก็พอดีที่ผมทานอาหารเช้าไม่มาก ก็ทานไปหน่อยนึงพออยู่ได้ เดียวไปทานอาหารกลางวันที่สวิสแล้ว เมนูกลางวันตามโปรแกรมเป็นอาหารจีน
ก่อนเครื่องบินจะลงจอด ช่วงที่ใกล้ถึงซูริค อากาศแปรปรวนเล็กน้อย เครื่องบินสั่นโคลง กัปตันประกาศให้นั่งอยู่กับที่และรัดเข็มขัด ก็เป็นธรรมดาไม่น่าตื่นเต้นอะไร เป็นเรื่องที่เกิดบ่อยๆ กับเครื่องบินทุกลำครับ
หกโมงเศษๆ ตามเวลาท้องถิ่นเครื่องก็ลงจอด ผมดูเวลาตอนที่ล้อแตะพื้นรันเวย์ 0614 พอดีครับ ในที่สุดเราก็มาถึงซูริค สวิสเซอร์แลนด์

2 ความคิดเห็น:

murderz05 กล่าวว่า...

เค้าว่ากันว่า ..อาหารบนเครื่องมันจะรสชาติไม่ได้เรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น class ไหนๆ 555+

สงสัยจะจริงนะคับคุณพ่อ ^^


แบบเคยอ่านหนังสือที่พวกคนทำอาหารส่งเครื่องเล่า่ให้ฟัง
ที่ต้องแพ๊กๆ แล้วเอาไปเวฟ




อยากดูไลออนคิง ^^
555

คิดถึงคุณพ่อฮะ ><

murderz05 กล่าวว่า...

เค้าว่ากันว่า ..อาหารบนเครื่องมันจะรสชาติไม่ได้เรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น class ไหนๆ 555+

สงสัยจะจริงนะคับคุณพ่อ ^^


แบบเคยอ่านหนังสือที่พวกคนทำอาหารส่งเครื่องเล่า่ให้ฟัง
ที่ต้องแพ๊กๆ แล้วเอาไปเวฟ




อยากดูไลออนคิง ^^
555

คิดถึงคุณพ่อฮะ ><