28 เมษายน 2552

วันที่ 25 มีนาคม 2552 ลูเซิร์น-ซูริค-บูดาเปสต์ (ฮังการี)

เช้าวันที่ 25 เราออกเดินทางจากลูเซิร์นแต่เช้าเดินทางไปซูริค ซึ่งในตอนบ่ายเราจะต้องจากสวิสเซอร์แลนด์ไปกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ประมาณชั่วโมงเศษจากลูเซิร์นเราก็เดินทางมาถึงเมืองซูริค เราไปแวะชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางทหารของสวิสเซอร์แลนด์ก่อนเดินทางไปบูดาเปสต์ (ฮังการี)

รถรางไฟฟ้าที่เมืองซูริค




ชาวเมืองซูริคยังใช้จักรยานเป็นพาหนะ
มีที่จอดรถจักรยานด้วยครับ

นี่ก็รถรางไฟฟ้า น่าอิจฉาจัง






สาวๆ บนถรางไฟฟ้ายิ้มให้
ตึกหลังนี้ มุมตึกมีธงชาติไทยด้วย
สงสัยจะเป็นบ้านคนไทย
ออกจากร้านอาหาร เราตรงไปสนามบินซูริคเพื่อขึ้นเครื่องบินไปกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เที่ยวบินนี้ไม่ใช่เทียวบินที่บินตรงไปฮังการีนะครับ เราจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินฮีทโทร ที่อังกฤษก่อนครับ
ที่สนามบินซูริคนั้น ดูหลายคนค่อนข้างจะชุลมุนวุ่นวายกันมาก ไกด์ลอฟฟ์ทัวร์เพิ่งจะมาบอกก่อนถึงสนามบินว่า กระเป๋าแต่ละใบต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. ก็พวกเราหลายคนซื้อของมาเยอะแยะ แพ็คใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เพิ่งจะมาบอก ก็เกินสิครับ ทดลองชั่งน้ำหนักกันก็เกิน ต้องเปิดกระเป๋าออกมาแบ่งใส่กระเป๋าของเพื่อนที่น้ำหนักไม่เกิน เฉลี่ยกันไป วุ่นวายกันพักใหญ่ บางคนก็แบ่งใส่กระเป๋าใบเล็กแล้วหิ้วขึ้นเครื่อง ก็รอดตัวกันไป ไกด์ก็ถูกด่าลับหลับ ก็เพิ่งจะมาบอกเอาตอนนี้

สนามบินซูริค ทันสมัยมาก เครื่องเช็คอินอัตโนมัติมีให้ใช้จำนวนมาก แต่ก็ลำบากเจ้าหน้าที่เพราะพวกเราไม่คุ้นเคย ไม่เคยใช้ คนแรกๆ ที่ใช้เครื่องเช็คอินแล้วก็เลยต้องทำหน้าที่กดเครื่องเช็คอินให้เพื่อนคนหลังๆ ถัดมาด้วย เช็คอินแล้วก็จะได้บัตรขึ้นเครื่อง Boarding Pass แล้วก็ไปส่งกระเป๋า อันที่จริงก็สะดวกดี ไม่ต้องรอพนักงาน สวิสเขาพยายามใช้คนให้น้อยที่สุด จะมีอุปกรณ์เครื่องช่วยอัตโนมัติเกือบทุกอย่าง แม้แต่ในห้องน้ำ

เครื่องเช็คอินอัตโนมัติ ที่สนามบินซูริค


บนท้อ งฟ้าขณะเดินทางไปลอนดอน



ความลำบากที่พวกเราประสบอีกอย่างที่สนามบินซูริคก็คือ ลอฟฟ์ทัวร์แจกอาหารเย็นให้พวกเราเป็นข้าวกล่อง ข้าวไข่พะโล้ พร้อมกับน้ำดื่มคนละขวด มันลำบากตอนเอาสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่องครับ เพราะต้องผ่านการตรวจค้นก่อนขึ้นเครื่อง และที่สำคัญเขาห้ามเอาของเหลวทุกชนิดขึ้นเครื่องครับ พอจะผ่านเข้าช่องตรวจหนังสือเดินทาง ที่ประตูก็จะมีจุดให้ทิ้งสิ่งของต้องห้ามขึ้นเครื่อง พวกเราก็ต้องทิ้งมันไว้ที่นั่น แล้วก็เดินเข้าประตูไป ผ่านอิมมิเกรชั่นแล้วก็ต้องเดินลงไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปยังอีกเทอมินอลหนึ่งเพื่อขึ้นเครื่อง เหมือนขาที่มาถึงซูริคนั่นเลยครับ กว่าจะรูว่าต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปก็เสียเวลาไปมากเลยครับ
แล้วกว่าจะผ่านการตรวจค้นอีก ที่สนามบินซูริคตรวจเข้มมาก แล้วก็ช้ามากด้วย อาจเป็นเพราะผู้โดยสารมาก เข้าแถวรอตรวจยาวเหยียด ผมผ่านการตรวจมาได้ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่สุ่มเรียกเข้าไปตรวจในห้อง สงสัยว่าหน้าตาเราจะเหมือนพวกบินลาดิน ภูมิใจจัง ตรวจแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เดินออกมาหยิบของ แต่งตัว เพราะเขาให้ถอดเสื้อนอก ถอดเข็มขัด เอาโน๊ตบุ๊กออกจากกระเป๋า เอาของ กระเป๋าตังค์ออกมาใส่ตะกร้า วุ่นวายจริงๆ ผ่านออกมาได้ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องบินพอดี ไม่ต้องนั่งรอเลยแม้นาทีเดียว ในที่สุดก็เครื่องก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าบินไปอังกฤษตอนบ่ายสามโมงพอดี

ไม่มีความคิดเห็น: